เฟอร์นิเจอร์ชื้น ปัญหากวนใจที่มักมาพร้อมกับฤดูฝน

เฟอร์นิเจอร์ชื้น แก้ยังไง

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนความชื้นในอากาศมักสูงขึ้นกว่าปกติ และนี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหาเฟอร์นิเจอร์ชื้น ที่หลายบ้านเจอกันโดยไม่รู้ตัว เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้จริง ไม้อัด หรือไม้ปาร์ติเคิล รวมถึงโซฟาผ้า ล้วนมีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นได้ง่าย หากบ้านอากาศถ่ายเทไม่ดี ความชื้นจะสะสมอยู่ในเนื้อวัสดุ จนก่อให้เกิดความเสียหายต่าง ๆ

เฟอร์นิเจอร์ไม้เมื่อเจอความชื้นบ่อย ๆ อาจเกิดอาการบวม โก่งงอ หรือเสียรูปทรง ส่วนโซฟาผ้าก็มีโอกาสกลายเป็นโซฟาขึ้นรา โดยเฉพาะตามซอกมุมที่ระบายอากาศไม่ทั่วถึง ซึ่งนอกจากทำให้ผิววัสดุเสียหายแล้วยังสร้างกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ติดตามมา หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่แก้ไข ปัญหาอาจลุกลามจนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ขึ้นราเต็มพื้นที่ และยากต่อการฟื้นฟู

ที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ ความชื้นสามารถซึมลึกเข้าไปถึงโครงสร้าง ทำให้ไม้ผุ ชั้นไม้อัดหลุดล่อน หรือข้อต่อ-สกรูคลายตัว ส่งผลต่อความแข็งแรงและอายุการใช้งานในระยะยาว หลายคนมักถามว่า โซฟาขึ้นรา ทำอย่างไร หรือมีเฟอร์นิเจอร์ขึ้นราวิธีแก้ ที่ได้ผลจริงหรือไม่ คำตอบคือการป้องกันและดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากละเลย ปัญหาเล็ก ๆ จากความชื้นอาจกลายเป็นการเสียหายที่ใหญ่จนต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่เลยทีเดียว

สาเหตุของปัญหาเฟอร์นิเจอร์ชื้นในหน้าฝน

สาเหตุเฟอร์นิเจอร์ชื้น

ปัญหาเฟอร์นิเจอร์ชื้น และการเกิดโซฟาขึ้นรา มักมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ความชื้นในอากาศสูงกว่าปกติ หากไม่ระวัง เฟอร์นิเจอร์ก็อาจเสียหายจนต้องหาทางแก้หรือเปลี่ยนใหม่ มาดูกันว่าปัญหานี้เกิดจากอะไรบ้าง

  • ความชื้นในอากาศสูง หน้าฝนมีความชื้นสะสมมาก แถมไม่มีแสงแดดช่วยระเหย ส่งผลให้ไม้ ผ้า และฟองน้ำในโซฟาเก็บความชื้นไว้ จนเสี่ยงต่อการเกิดรา
  • การระบายอากาศไม่เพียงพอ บ้านที่ปิดประตูหน้าต่างตลอด หรือไม่มีพัดลม/เครื่องดูดอากาศ ทำให้ความชื้นหมุนเวียนไม่ได้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดทั้ง เฟอร์นิเจอร์ขึ้นรา และกลิ่นอับ
  • น้ำฝนรั่วซึมเข้ามาในบ้านน้ำฝนสาดเข้าทางหน้าต่าง ประตู หรือการรั่วซึมของหลังคาและผนัง อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์เปียกโดยตรง และกลายเป็น โซฟาขึ้นรา ได้ง่าย
  • การวางเฟอร์นิเจอร์ชิดผนังหรือพื้นเกินไป จุดอับหลังตู้ โต๊ะ หรือโซฟาที่ไม่มีอากาศถ่ายเท เป็นแหล่งสะสมความชื้นชั้นดี ซึ่งทำให้ราเกิดขึ้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
  • วัสดุเฟอร์นิเจอร์ไม่ทนชื้น เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ MDF หรือไม้อัดคุณภาพต่ำ มักเสื่อมสภาพเร็วเมื่อโดนความชื้น สุดท้ายอาจพังง่ายหรือเกิดราได้บ่อย

การรู้สาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าโซฟาขึ้นรา ทำอย่างไร ถึงจะป้องกันได้ และเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการดูแลหรือแก้ไขปัญหา เฟอร์นิเจอร์ขึ้นรา วิธีแก้ในระยะยาว

เฟอร์นิเจอร์ขึ้นรา ความเสี่ยงที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน

หลายคนอาจคิดว่า เฟอร์นิเจอร์ขึ้นรา หรือ โซฟาขึ้นรา เป็นเพียงปัญหาที่ทำให้บ้านดูไม่สะอาด แต่จริง ๆ แล้วเชื้อราที่เกิดจากความชื้นมีอันตรายมากกว่านั้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่โอกาสเกิด เฟอร์นิเจอร์ชื้น สูงขึ้น หากปล่อยไว้นาน อาจกระทบทั้งสุขภาพและอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์

  • กระทบต่อสุขภาพโดยตรงเชื้อราที่ขึ้นบนเฟอร์นิเจอร์สามารถปล่อยสปอร์ลอยในอากาศได้ หากสูดดมเข้าไปอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ไอ จาม หอบหืด หรือโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรระวังเป็นพิเศษ
  • เริ่มจากจุดเล็ก ๆ แต่ลุกลามได้เร็ว เชื้อรามักเกิดตามซอกอับ เช่น หลังตู้ ลิ้นชัก หรือมุมโซฟาที่ไม่โดนแดด หากไม่ได้แก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ คราบราจะลามทั่วเฟอร์นิเจอร์ ทำให้เกิดคราบดำ เขียว หรือขาวที่ทำความสะอาดยากมาก
  • ทำลายโครงสร้างภายใน ในกรณีที่ราลามถึงโครงไม้ เช่น MDF หรือไม้ปาร์ติเคิล วัสดุอาจเปื่อยยุ่ย ผุพัง หรือแยกชั้นจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ ต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่เท่านั้น
  • กลิ่นอับทำลายบรรยากาศในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ที่มีราเยอะจะส่งกลิ่นอับรุนแรง ทำให้ทั้งห้องเสียบรรยากาศและไม่น่าอยู่

ดังนั้นหากคุณกำลังเจอปัญหา โซฟาขึ้นราหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเริ่มมีคราบราขึ้น ควรหาวิธีจัดการและเลือกวิธีแก้ที่ถูกต้องทันที เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ของความสวยงาม แต่คือความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของคนในบ้าน

วิธีจัดกำจัดเชื้อราบนเฟอร์นิเจอร์

กำจัดเชื้อราบนโซฟา

เมื่อพบว่าโซฟาขึ้นรา หรือเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเริ่มมีคราบราขึ้นแม้จะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องรีบกำจัดโดยทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราขยายตัวและกระจายสปอร์ไปทั่วบ้าน ซึ่งจะยิ่งทำให้กำจัดยากและเสี่ยงต่อสุขภาพมากขึ้น โดยสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้:

1. เริ่มจากการกำจัดเชื้อราบนพื้นผิว

ใช้แปรงขนอ่อนหรือผ้าแห้งเช็ดเบา ๆ บริเวณที่มีเชื้อรา เพื่อขจัดคราบราบนพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ออกก่อน ระวังอย่าใช้แรงมากจนทำให้ผิววัสดุเสียหาย หรือฟุ้งกระจายสปอร์เข้าสู่อากาศ

2. ใช้สารธรรมชาติฆ่าเชื้อ

ผสมน้ำส้มสายชูหรือแอลกอฮอล์กับน้ำในอัตราส่วน 1:1 แล้วใช้ผ้าชุบน้ำยาเช็ดซ้ำบริเวณเดิม เพื่อฆ่าเชื้อราและยับยั้งการเติบโตของสปอร์ วิธีนี้เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั่วไปหรือผ้าหุ้มเบาะที่สามารถเปียกได้โดยไม่เสียหาย

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวเคลือบเงา แนะนำว่าควรทดสอบกับจุดเล็ก ๆ ก่อน เพื่อป้องกันรอยด่าง

3. เพิ่มการระบายอากาศและลดความชื้น

หลังจากทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์แล้ว ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท และใช้พัดลมเป่าเฟอร์นิเจอร์ให้แห้งเร็วขึ้น หากเป็นไปได้ แนะนำให้ใช้เครื่องลดความชื้น (Dehumidifier) เพื่อควบคุมระดับความชื้นในห้องให้อยู่ในระดับที่ไม่เกิน 60% ซึ่งเป็นระดับที่เชื้อราเติบโตได้ยาก

4. วิธีจัดการเชื้อรากรณีคราบราฝังแน่นหรือฝังลึกถึงโครงสร้าง

หากเชื้อรากินลึกเข้าไปในเนื้อไม้หรือผ้า การใช้สารธรรมชาติอาจไม่เพียงพอ ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราสำเร็จรูปที่ออกแบบมาสำหรับเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะ (สามารถหาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้างหรือออนไลน์) มาเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์

หากพบว่าเนื้อไม้ผุพังเสียหาย ควรเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนที่มีปัญหา หรือในบางกรณีอาจต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ทั้งชิ้น เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย

5. ดูแลสุขภาพหลังจัดการเชื้อรา

ควรสวมถุงมือ หน้ากากอนามัย และเปิดหน้าต่างระบายอากาศระหว่างทำความสะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสูดดมเชื้อราเข้าไปโดยตรง และหลังทำความสะอาดควรล้างมือและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

วิธีป้องกันเฟอร์นิเจอร์ชื้นในฤดูฝน

เลี่ยงวางโซฟาตำแหน่งที่มีความชื้น

การป้องกันย่อมดีกว่าการซ่อมแซม โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ความชื้นในอากาศสูงเป็นพิเศษ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในบ้านล้วนมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเฟอร์นิเจอร์ชื้น บวม หรือขึ้นราได้ง่าย หากขาดการดูแลอย่างเหมาะสม ต่อไปนี้คือ วิธีป้องกันเฟอร์นิเจอร์ชื้น ที่คุณสามารถเริ่มทำได้ทันที

1. จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกที่

การวางเฟอร์นิเจอร์ชิดผนังหรือวางราบกับพื้นจะทำให้เกิดจุดอับที่อากาศไม่สามารถไหลเวียนได้ ความชื้นจึงสะสมบริเวณหลังตู้ ใต้เตียง หรือข้างโซฟาได้ง่าย แนะนำว่าควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ห่างจากผนังและพื้นห้องอย่างน้อย 5–10 เซนติเมตร เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้น การเว้นระยะห่างจะช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ทั่วถึง ลดโอกาสการเกิดราหรือเชื้อโรค

2. ติดตั้งม่านกันฝนหรือกันสาดบริเวณหน้าต่างและระเบียง

เพื่อป้องกันไม่ให้ฝนสาดเข้ามาในบ้านโดยตรง คุณสามารถติดตั้งกันสาดหรือม่านกันฝนบริเวณหน้าต่างและระเบียงในพื้นที่ที่วางเฟอร์นิเจอร์ กันสาดและม่านกันฝน จะช่วยลดโอกาสที่น้ำฝนจะกระเด็นเข้ามาโดนเฟอร์นิเจอร์โดยตรง โดยเฉพาะในช่วงฝนตกหนักหรือฝนลมแรง ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องเฟอร์นิเจอร์ชื้นได้มากขึ้น

3. ใช้วัตถุช่วยลดความชื้น

คุณสามารถใช้ถุงกันชื้น ซิลิกาเจล หรือถ่านดูดความชื้น วางในตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก ตู้เก็บของที่ปิดทึบ หรือพื้นที่ที่มีโอกาสสะสมความชื้นได้สูง เพื่อช่วยรักษาสภาพอากาศภายในให้แห้งอยู่เสมอ และควรเปลี่ยนหรืออบให้แห้งเป็นประจำทุก 1–2 เดือน

4. เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทอย่างน้อยวันละ 30 นาที

การระบายอากาศเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูอย่างน้อยวันละ 30 นาทีเพื่อให้อากาศภายในห้องเกิดการหมุนเวียนและช่วยไล่ความชื้นสะสมในห้อง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงเช้าที่อากาศยังไม่ชื้นจนเกินไป หรือช่วงเวลาที่มีลมหรือแดดออก หากไม่สะดวกเปิดหน้าต่างทุกวัน สามารถใช้พัดลมดูดอากาศหรือเครื่องลดความชื้นแทนได้

5. ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ให้แห้งอยู่เสมอ

ควรใช้ผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดฝุ่นและเชื้อราที่อาจเริ่มสะสมตามมุมต่าง ๆ พร้อมเช็ดตามด้วยผ้าแห้งทันที โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ใกล้หน้าต่าง ประตู หรือในห้องน้ำ ซึ่งมีความชื้นสะสมมากกว่าปกติ การหมั่นดูแลสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดโอกาสการเกิดเชื้อราลุกลาม

6. เลือกใช้วัสดุเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม

หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่มีความชื้นสูงหรือมีฝนตกบ่อย ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณสมบัติทนความชื้นได้สูง เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ HMR, พลาสติกแข็ง หรือโลหะที่มีการเคลือบกันชื้น วัสดุเหล่านี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษและมีคุณสมบัติทนต่อความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัว ห้องน้ำ พื้นที่ใกล้หน้าต่างหรือระเบียง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการเปียกชื้นจากฝนหรือน้ำกระเซ็น

เฟอร์นิเจอร์ชื้นป้องกันได้ หากใส่ใจดูแลเป็นประจำ

การดูแลเฟอร์นิเจอร์ให้ห่างไกลจากความชื้นไม่ใช่เรื่องยาก หากเรารู้เท่าทันปัจจัยเสี่ยง และใส่ใจดูแลเป็นประจำเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถช่วยป้องกันปัญหาเฟอร์นิเจอร์ชื้นหรือเฟอร์นิเจอร์ขึ้นราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดค่าใช้จ่าย และทำให้บ้านของคุณยังคงสวยงามและมีบรรยากาศที่น่าอยู่ตลอดทั้งปี

หากคุณกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดี ดีไซน์สวย ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง SOFA PLUS+ มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านให้เลือกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโซฟาหลากหลายประเภท เก้าอี้ปรับเอน เตียงนอน รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอื่น ๆ มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้ครบครัน และยังมีบริการออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์สั่งทำ (Made-to-order) ช่วยให้คุณได้เฟอร์นิเจอร์ที่ในแบบที่ต้องการ ลงตัวทั้งความสวยงาม พื้นที่จัดวาง และการใช้งานจริง

เลือกโซฟาที่ใช่ สำหรับบ้านคุณได้ง่าย ๆ ด้วยดีไซน์และวัสดุที่หลากหลาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

หรือเข้าชมสินค้าจริงได้ที่โชว์รูมของเราทั้ง 2 สาขา

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับปัญหาเฟอร์นิเจอร์ชื้นและขึ้นรา

ช่วงหน้าฝนหลายบ้านมักเจอปัญหา เฟอร์นิเจอร์ชื้นและโซฟาขึ้นรา จนเกิดทั้งคราบ กลิ่นอับ และเสี่ยงต่อสุขภาพ เรารวมคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบและ วิธีแก้เฟอร์นิเจอร์ขึ้นรา ที่ช่วยให้คุณรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างมั่นใจ

Q: โซฟาขึ้นรา ทำอย่างไรให้หายและไม่กลับมาอีก?

A: เริ่มจากดูดฝุ่นหรือเช็ดคราบราออก จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำผสมแอลกอฮอล์หรือน้ำส้มสายชูเช็ดซ้ำเพื่อฆ่าเชื้อรา แล้วนำไปผึ่งแดดหรือเปิดพัดลมช่วยลดความชื้น เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำควรใช้สารดูดความชื้นหรือเครื่องลดความชื้นในห้อง

A: ใช่ เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ ควรเช็ดด้วยน้ำสบู่อ่อนและผึ่งลมให้แห้ง ส่วนโซฟาผ้า อาจใช้เบกกิ้งโซดาโรยเพื่อดูดความชื้นก่อนทำความสะอาด แต่ถ้าเป็นโซฟาหนัง แนะนำใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับดูแลหนังเพื่อไม่ให้ผิวเสียหาย

A: ควรรีบเช็ดทำความสะอาดทันที ใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาฆ่าเชื้อราเช็ดให้ทั่ว แล้วเปิดบ้านให้อากาศถ่ายเท ใช้ถุงดูดความชื้นวางในลิ้นชักหรือตู้เสื้อผ้าเพื่อป้องกันกลิ่นสะสม